ผบ.ตร.กล่าวต่อไปว่า ส่วนการดำเนินคดีกับตำรวจที่บังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพ ต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดก่อนที่จะชี้แจงให้สาธารณชนรับทราบ โดยเฉพาะประเด็นคลิปเสียงสนทนาของชายที่คาดว่าเป็นตำรวจยศ พ.ต.ต. และ พ.ต.ท. ต้องเรียกเจ้าของเสียงมาสอบปากคำว่าพูดจริงหรือไม่ ยืนยันว่าหากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัย “ในฐานะ ผบ.ตร. น้อมรับความผิดพลาดและขอโทษประชาชนที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องและทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน ยอมรับว่าในองค์กรตำรวจที่มีคนจำนวนมาก มีตำรวจบางนายที่ประพฤติไม่ดี เมื่อปีที่ผ่านมาก็ให้ออกไปกว่า 300 นาย และการประชุม ก.ตร.ครั้งที่จะถึงนี้ก็มีคำสั่งให้ออกอีกกว่า 60 นาย ยืนยันว่าหนังเรื่องนี้ยังไม่จบ ใครผิดไม่เลี้ยงไว้แน่นอน”
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า กลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุมีคดีค้างเก่าไม่น้อยกว่า 5-6 คดี ทั้งกระทำชำเรา รุมโทรมหญิง ทำร้ายร่างกาย แต่ไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี ตอนนี้พบผู้เสียหายแล้วจะต้องเชิญมาให้ข้อมูล รวมทั้งจะต้องเชิญผู้กำกับและหัวหน้าชุดทำคดีทั้งหมดมาสอบถามถึงปัญหาว่าคดีติดขัดเรื่องใดถึงไม่มีความคืบหน้า เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีเพิ่มเติมกับเยาวชนทั้ง 5 คน ส่วนคลิปเสียงที่หลุดออกมาเพิ่มเชื่อว่าเป็นคลิปเสียงจริง ยอมรับเหนื่อยใจกับพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาที่เมื่อกระทำผิดแล้วพยายามปกปิด รายงานข้อเท็จจริงไม่ครบ หรือปิดบังการสอบสวนที่ผิดพลาด ไปกระทืบลุง จับกุมผิดตัว กลัวผู้บังคับบัญชารู้ กลัวจะถูกเล่นงาน แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือลูกตำรวจ และลุงเปี๊ยกก็เคียดแค้นว่าตำรวจนายนี้ทำร้ายตนเองบังคับให้ชี้ที่เกิดเหตุ ตนก็เหนื่อยใจและประชาชนรู้สึกเอียนจนไม่รู้จะเอียนอย่างไรแล้ว ในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องลงไปแก้ไขด้วยตัวเอง
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์แถลงว่า นายกรัฐมนตรีกำชับและสั่งการให้ลงมาดูแลด้วยตนเอง ตอนนี้การดำเนินคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว กำชับให้ดำเนินคดีให้โปร่งใสที่สุด มีการทำงานเป็นทีมมีทั้งรอง ผวจ.สระแก้ว และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้
ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวว่า มอบหมายให้ ผบช.ภ.2 ดูแลการดำเนินคดีและขยายผลแจ้งข้อหาคดีต่างๆอย่างใกล้ชิด ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาทุกคดี เน้นความโปร่งใส และวันที่ 20 ม.ค.จะแถลงข่าวผลการดำเนินงานให้สื่อมวลชนทราบอย่างละเอียด ทั้งนี้ ตนจะดูสำนวนคดีที่เด็กพวกนี้เคยก่อเหตุทั้งคดีเก่าคดีใหม่ จะไล่สำนวนทั้งหมดมาดำเนินคดีกับเด็กพวกนี้ให้ได้ ขณะนี้เด็กทั้งหมดต้องอยู่ในสถานพินิจฯอย่างน้อยก็ 3 ปีอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่ลุงเปี๊ยกชี้รูปตำรวจที่บีบบังคับให้รับสารภาพ ได้กำชับพนักงานสอบสวนต้องดำเนินคดีใครมีส่วนรู้เห็นต้องโดนด้วยทั้งหมด
ที่ สภ.อรัญประเทศ ช่วงสายวันเดียวกัน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พาเยาวชนหญิงอายุ 15 ปี และพ่อของเยาวชนชายอายุ 16 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งโจ๋ทรชนลูกตำรวจที่รุมสังหารป้ากบ มาเข้าแจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย กัน จอมพลัง เผยว่า มีผู้เสียหายร้องทุกข์เข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วันนี้พาเยาวชนหญิงอายุ 15 ปี ถูกแก๊งลูกตำรวจบังคับข่มขืนกระทำชำเราและถ่ายภาพแบล็กเมล์ หากไม่ยอมจะเอาพวกมารุมโทรมด้วย เหยื่อไม่กล้าเข้าแจ้งความเนื่องจากหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุมีพ่อเป็นตำรวจ
ส่วนอีกรายเป็นผู้ปกครองของเยาวชนอายุ 16 ปี มาร้องว่าลูกชายถูกแก๊งลูกตำรวจยกพวกกว่า 10 คน รุมทำร้ายร่างกาย เอามีดไล่ฟันจนเสียชีวิต ส่วนเพื่อนได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ระหว่างจัดงานศพแก๊งนี้ยังเอาระเบิดไปปาข่มขู่ ขี่รถ จยย.เบิ้ลเครื่องก่อกวนที่งานศพ พร้อมทั้งขู่พ่อเด็กว่าจะฆ่าลูกเขาอีกคนด้วย หลังเกิดเหตุครอบครัวไม่ได้รับการเยียวยาแม้แต่บาทเดียว และวันที่เกิดเหตุมีเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์อีก 2 คนถูกมีดฟันแขนและขาบาดเจ็บสาหัส คดีความผ่านมาแล้ว 2 ปี ยังไม่มีความคืบหน้า ตนไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร